การหมุน คือท่าการแสดงท่าหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นท่าบังคับสำหรับการแข่งขันสเกตลีลา (ฟิกเกอร์สเกต) โดยมีการจำกัดความหมายถึง การที่นักกีฬาสร้างรอบการหมุนตัวบนพื้นน้ำแข็งหลาย ๆ รอบเพียงจุดใดจุดหนึ่ง (จุดหมุน) ซึ่งจุดสัมผัสของจุดหมุนนี้จะเกิดโดยบริเวณของใบมีดบริเวณส่วนถัดจากโทพิก (toe pick) ค่อนมาทางด้านฝ่าเท้าเล็กน้อย จะไม่มีการหมุนโดยใช้โทพิกในการหมุนอย่างเด็ดขาดตามที่มักมีการเข้าใจผิดกันอย่างเสมอมา โดยจะมีการค้างท่าดังกล่าวไว้ในระยะเวลาหนึ่งเพื่อสร้างรอบการหมุน ซึ่งจะนักกีฬาสามารถเปลี่ยนแปลงท่าระหว่างการทำการหมุนตัวในคราวเดียวกัน หรือจะไม่เปลี่ยนแปลงท่าเลยจนเสร็จสิ้นการหมุนก็ได้ เรียกการหมุนที่ไม่เปลี่ยนแปลงท่าเลยนี้ว่า "ซิงเกิลสปิน" (single spin) และเรียกการหมุนตัวโดยมีการเปลียนแปลงท่า หรือมีการเปลี่ยนเท้าระหว่างการหมุนในคราวเดียวกันว่า "คอมบิเนชันสปิน" (combination spin)โดยมักกำนดให้การหมุนแต่ละคราวนั้นควรมีรอบการหมุนไม่น้อยกว่า 6 รอบในคราวเดียวกัน เช่นตามข้อกำหนดของสมาคมฟิกเกอร์และสปีดเกตติงแห่งประเทศไทย เป็นต้น
มีการจำแนกชนิดของการหมุนหลายแบบ เช่นการจำแนกโดยเท้าที่เป็นจุดหมุน การจำแนกโดยเริ่มต้นเข้าจุดหมุน หรือแม้แต่ท่าทางการแสดงออกของท่าโดยแขน, ขา, หรือลำตัว เป็นต้น ตามกติกาสากล ผู้เล่นสเกตลีลาจำเป็นต้องหมุนโดยกำหนดทิศทางที่ตนเองถนัดเท่านั้นในการแข่งขัน เช่น เป็นผู้หมุนแบบทิศทวนเข็มนาฬิกา หรือหมุนในทิศตามเข็มนาฬิกา เช่นเดียวกับกระโดด ซึ่งโดยมากแล้ว นักสเกตลีลานิยมหมุนในทิศทาง ทวนเข็มนาฬิกาเสียมากกว่า ดังนั้นหากเป็นนักสเกตทีทำการหมุนในทิศทวนเข็มนาฬิกาแล้ว หากหมุนโดยเท้าซ้ายเรียกว่าฟอร์วาร์ดสปิน (forward spin) แต่หากทำการหมุนโดยเท้าขวาเรียกว่า "แบ็กสปิน" (back spin) สำหรับนักสเกตชาวไทยแล้ว การหมุนฟอร์วาร์ดสปิน หรือการหมุนบนเท้าซ้ายนั้น (สำหรับผู้หมุนทวนเข็มนาฬิกา) จะไม่นิยมเรียก "ฟอร์วาร์ดสปิน" เช่นการหมุนท่า "ฟอร์เวิร์ดซิตสปิน" จะเรียก "ซิตสปิน" เท่านั้น หากแต่การหมุนโดยเท้าขวา หรือ "แบ็กสปิน" จะเรียกนำหน้าท่าการหมุนเพื่อให้เข้าใจว่ากำลังหมุนโดยเท้าขวามิใช่เท้าซ้าย ตัวอย่างเช่น หากหมุนท่า "ซิตสปิน" ด้วยเท้าขวา จะเรียก "แบ็กซิตสปิน" หรือทำการหมุนท่า "คาเมลสปิน" ก็จะเรียกว่า "แบ็กคาเมลสปิน"
นอกจากการจำแนกชนิดของการหมุนด้วยเท้าที่เป็นจุดหมุนแล้ว การเรียกชื่อท่าทางของการหมุนนั้นจะจำแนกโดยตำแหน่ง หรือการแสดงออกของขา, แขน หรือลำตัว ได้ดังนี้
การหมุนแบบ อัปไรต์สปิน (upright spin) เป็นการหมุนโดยให้ขาข้างที่เป็นจุดหมุน อยู่ในลักษณะที่ตั้งฉากกับพื้นน้ำแข็ง --note 19:41, 2 มิถุนายน 2552 (ICT) การหมุนแบบนี้ สามารถแยกย่อยออกเป็นท่าต่าง ๆ ได้อีก ซึ่งแต่ละท่าจะมีความยากง่ายต่างกัน โดยจะขอจำแนกโดยอ้างอิงข้อมูลเพียงท่าการแสดงที่มีการกำหนดไว้ในกติกานานาชาติของ สหพันธ์สเกตน้ำแข็งนานาชาติ เป็นหลัก
นอกจากนี้ การหมุนแบบอัปไรต์ ยังมีท่าปลีกย่อยอีกหลายท่าที่แตกแขนงออกมาเพื่อเพิ่มระดับคะแนนความยากขึ้นอีกหลายท่าตัวอย่างเช่น "ไอสปิน" ("I" spin) ที่จะมีลักษณะคือเท้าที่เป็นเท้าอิสระจะถูกยกขึ้นมาแนบลำตัวด้านหน้า ทำให้ลักษณะของเท้าและลำตัวอยู่ชิดกันทำให้ลำตัวผู้เล่นเหมือนรูปตัว "I" ในภาษาอังกฤษ , "วายสปิน" ("Y" spin) ลักษณะคล้าย "ไอสปิน" หากแต่ต่างกันที่เท้าอิสระจะถูกยกขึ้นจากด้านข้างลำตัว ทำให้ลักษณะของเท้าและลำตัวเหมือนรูปตัว "Y" ในภาษาอังกฤษ รวมถึงท่า "บีลล์มันน์" เองก็ยังถือว่าเป็นท่าที่แตกแขนงออกมาจากท่า "เลย์แบ็กสปิน" ที่ถือว่าเป็นหนึ่งในท่าของการหมุนแบบ "อัปไรต์" อีกด้วย
ซิตสปิน หรือ ท่านั่งหมุน คือ การหมุนที่บั้นท้ายของผู้เล่นจะต้องอยู่ไม่สูงกว่า หรือเท่ากับระดับของเข่าของผู้เล่นในขาข้างที่เป็นจุดหมุน ในลักษณะของท่านั่ง โดยขาข้างที่เป็นจุดหมุนจะต้องอยู่ในลักษณะงอพับเพื่อให้เกิดลักษณะของท่านั่ง ท่าซิตสปินนี้จะมีลักษณะการแสดงออกปลีกย่อยได้อีกหลายท่าตามที่บัญญัติไว้ในกติการแข่งขันของสมาพันธ์สเกตน้ำแข็งนานาชาติ (ISU) ได้ดังนี้
นอกจากการหมุนแบบซิตสปิน ชนิดท่าหลักที่ได้บัญญัติไว้ในกติกาแล้ว ผู้เล่นอาจมีการแสดงท่านอกเหนือจากนี้ได้ เพื่อเพิ่มระดับความยากแก่การหมุน เช่น "การหมุนแบบแคนนอนบอล" (cannonball spin) หรือแ "ท่าหมุนแบบแพนเค้ก" (pancake spin) เป็นต้น